ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยมีโอกาสได้โดยสารไปกับรถยนต์ที่มีกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาจจะเป็นรถเพื่อน รถแท็กซี่ หรือแม้แต่รถคนที่บ้าน ซึ่งปัญหากลิ่นอับเหล่านั้นเกิดจากการดูแลภายในรถยนต์แบบผิด ๆ ก่อให้สะสมจนเกิดเป็นกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ได้ และในทางตรงกันข้ามสำหรับคนที่มีรถเอง ด้วยความที่คุณขับรถทุกวันการได้สูดกลิ่นภายในรถบ่อย ๆ จนทำให้จมูกเกิดความเคยชินจนแยกไม่ได้ว่ากลิ่นนั้นดีหรือไม่ดี ซึ่งคงไม่ดีแน่ ๆ หากมีคนเข้ามาในรถแล้วบอกว่ารถของคุณเหม็นอับ ด้วยเหตุนี้ Mottoraka เลยอยากมาแนะนำวิธีรับมือกับกลิ่นอับที่เกิดขึ้นในรถของคุณกันครับ

ที่มาของกลิ่นอับในรถ

1. นำอาหารเข้ามากินในรถ โดยเฉพาะอาหารที่มีกลิ่นแรง ๆ จำพวกเครื่องเทศ ทุเรียน ของคาวของหวาน ทั้งหมดย่อมมีกลิ่นติดรถสะสมได้
2. การอุดตันของช่องระบายอากาศ ไส้กรองแอร์สกปรก มีฝุ่นหรือสิ่งอุดตัน จนเกิดเป็นเชื้อรา และไม่ล้างแอร์มานาน
3. กลิ่นเสื้อผ้าหรือกลิ่นตัว มันเป็นกลิ่นค่อนข้างเฉพาะตัว เพราะว่าในสภาพอากาศร้อน ๆ อาจทำให้มีกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว กลิ่นรองเท้า ซึ่งกลิ่นพวกนี้ไม่ได้สะสมในรถขนาดนั้น แต่จะอบอวลอยู่เป็นเวลาที่เราใช้รถ
4. กลิ่นปฏิกูล เช่น อาจจะมีการอ้วกในรถ หรือมีสิ่งมีชีวิตตายในรถ หรือเผลอเหยียบมูลสัตว์ขึ้นมาในรถ กลิ่นพวกนี้อาจจะติดอยู่ในรถเป็นเวลานานได้เหมือนกัน
5. สภาพอาการ เช่น อย่างในหน้าฝน หรือรถที่ผ่านการลุยน้ำ จะเริ่มมีกลิ่นอับติดตามเบาะผ้า ตามพรม ซึ่งเมื่อสะสมนาน ๆ ก็จะก่อให้เกิดกลิ่นอับที่แก้ได้ยาก

วิธีป้องกันการเกิดกลิ่นอับในรถยนต์

1. ไม่ควรนำอาหารมากินในรถ หรือทิ้งอาหารไว้ในรถข้ามวัน นอกจากจะก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ง่ายแล้ว ยังทำให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ด้วย
2. อย่าปล่อยให้รถรก เต็มไปด้วยขยะ ควรนำไปทิ้งบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้สะสมครับ
3. ล้างรถบ่อย ๆ หมั่นดูดฝุ่นตามเบาะตามพรมครับ เพราะฝุ่นเมื่อก่อตัวมาก ๆ ก็จะทำให้เกิดกลิ่นไม่ดีเช่นกัน

วิธีขจัดกลิ่นอับในรถยนต์ง่าย ๆ

1. นำรถออกไปจอดในที่โล่ง เปิดประตู และกระจกทั้ง 4 ด้าน
2. เก็บของออกจากรถ เพื่อสะดวกในการทำความสะอาด
3. บิดสวิตช์กุญแจไปตำแหน่ง ON หรือสตาร์ทเครื่อง
4. กดปุ่มปิด A/C เพื่อไม่ให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงาน
5. เปิดแอร์แรงลมสูงสุดไว้ 2 นาที เพื่อไล่ความชื้นและกลิ่น
6. ใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดฝุ่นออกจากเบาะ
7. ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดหมาด ๆ เช็ดคราบสกปรกตามเบาะออกให้หมด
8. ใช้ผ้าชุบน้ำ เช็ดทำความสะอาดที่วางเท้า แล้วตากแดดให้แห้ง
9. ใช้ถ่าน (หุงต้ม) มาใส่ในถุงตาข่ายและผูกด้วยเชือกให้เรียบร้อย แล้วนำมาใส่ไว้ใต้เบาะนั่ง เพื่อไม่ให้เกะกะ
10. ปิดประตูและกระจกรถให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จ

แก้ไขกลิ่นอับในรถยนต์เพิ่มเติมในช่วงหน้าฝน

ในช่วงหน้าฝนที่ทำให้เกิดกลิ่นอับได้ง่ายกว่าปกติ เราก็มีอุปกรณ์หรือของใกล้ตัวที่หาได้ง่าย ๆ มาช่วยดับกลิ่นอับได้ครับ

1. ใช้เปลือกส้มดับกลิ่นในรถ เปลือกของส้มช่วยดับกลิ่นเหม็นอับในห้องน้ำได้เป็นอย่างดี และลดการก่อตัวของเชื้อแบคทีเรีย พร้อมทั้งมอบกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในเวลาเดียวกัน วิธีก็ง่าย ๆ แค่นำเปลือกส้มไปลางในจุดที่สะดวกภายในรถหรือนำไปไว้ในก้นถังขยะในรถก็ได้ครับ
2. ใช้ถ่านหุงต้มดับกลิ่นในรถ ถ่านเป็นของใกล้ตัวที่มีสารประกอบของไฮโดรคาร์บอนช่วยดูดซับกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี เพียงแค่นำไปวางไปจุดอับของรถ และเปลี่ยนเดือนละครั้งเท่านั้นครับ
3. ใช้ซิลิก้าเจล (Silica Gel) ดับกลิ่นในรถ ซึ่งสิ่งนี้คือสารดูดความชื้น มีคุณสมบัติช่วยลดความชื้นและดับกลิ่นเหม็นอับได้เป็นอย่างดี หาซื้อได้ง่ายตามร้านซูเปอร์มาเก็ททั่วไป ส่วนใหญ่บรรจุภัณฑ์จะเป็นแบบถุงกระดาษหรือกล่องพลาสติกที่เราสามารถนำไปวางหรือแขวนในมุมต่าง ๆ ของห้องน้ำได้อย่างสะดวกมากเลยครับ
4. มีน้ำยาปรับอากาศติดรถ ช่วยมอบกลิ่นหอมภายในรถได้เป็นอย่างดี แนะนำให้เป็นกลิ่นที่เน้นความสดชื่นครับ

จริง ๆ แล้วทั้ง 4 อย่างที่เลือกมาฝากเพื่อน ๆ ไม่จำเป็นว่าต้องใช้ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น แต่สามารถนำมาใช้ได้เรื่อย ๆ เป็นปกติเลยครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับวิธีที่ Mottoraka นำมาฝากกัน ไม่ได้ยากเลยใช่มั้ยครับ ผมเชื่อว่าเพื่อน ๆ ทำได้ง่าย ๆ และช่วยดับกลิ่นอับและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถยนต์ได้จริง เริ่มต้นกันตั้งแต่วันนี้ แล้วรถของคุณจะกลายเป็นที่ที่มีแต่กลิ่นสดชื่น ใครเข้ามานั่งก็จะรู้สึกดี รวมทั้งตัวคุณเองด้วยครับ

เข้าชม ตลาดรถ และโพสต์ขายรถของท่านได้ที่ ตลาดรถ รถมือสอง รถบ้าน

เช็คราคาซื้อ รถใหม่ รถมือสองได้ที่นี่ เช็คราคารถใหม่ รถมือสอง ฟรี!

เช็คราคาคงเหลือของรถของคุณได้ที่นี่ เช็คราคารถของคุณ ฟรี!

เข้าอ่านบทความรีวิวรถต่างๆ ได้ที่ รีวิวรถยนต์

เข้าอ่านบทความไลฟ์สไตล์ และ เกร็ดความรู้ ต่างๆ ได้ที่นี่ ไลฟ์สไตล์ /เรียนรู้เรื่องรถ

เข้าชมบทความอัพเดท ข่าวสารในวงการรถยนต์ ได้ที่นี่

สนใจเรื่องการประมูลรถ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มอตโต้ อ๊อคชั่น