เมื่อถึงฤดูหนาว หลาย ๆ คนก็จะมีทริปที่จะต้องไปบุกและผจญภัยในต่างจังหวัดกับครอบครัวและคนที่เรารัก ซึ่งอากาศเย็น ๆ แบบนี้ส่วนใหญ่ก็จะพากันไปทางภาคเหนือหรือภาคอีสานเพื่อสัมผัสกับอากาศเย็นสดชื่นกัน แต่การจะขับรถยนต์ในช่วงแบบนี้ อาจจะต้องเตรียมกันสักนิด เพราะระหว่างทางเราอาจจะเผชิญหน้ากับหมอกที่ลงจัด จนบดบังทัศนวิสัยตลอดเส้นทางก็เป็นได้ แล้ววิธีการที่จะขับรถยนต์ให้ปลอดภัยในตอนที่หมอกลงจัด ๆ นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง Motto RAKA มีเคล็ดลับมาฝากกัน

1. ห้ามเปิดไฟฉุกเฉินเด็ดขาด

จดจำไว้เสมอว่าไฟฉุกเฉินใช้จะก็ต่อเมื่อรถเราเสียเท่านั้น การเปิดไฟฉุกเฉินในขณะหมอกลงจัดจะทำให้คนอื่นกะระยะห่างกับเราได้ลำบากมาก บางรายอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าเราจอดรถอยู่ หรือถ้าเป็นในช่วงที่เราจะเลี้ยวแล้วด้วยนั้นก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

2. ให้ทำการเปิดไฟต่ำ

บอกเลยว่าไฟสูงไม่ได้ช่วยให้การขับขี่ท่ามกลางหมอกที่ลงจัดนั้นดีขึ้น การใช้ไฟต่ำหรือโคมไฟใหญ่นั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุด อีกทั้งในช่วงที่เราขึ้นเขาขึ้นเนินหรือเข้าโค้งต่าง ๆ ก็อาจจะกะพริบไฟช่วยเพื่อให้คันอื่นเห็นรถยนต์เราได้ ทั้งนี้สามารถใช้ร่วมกับการเปิดไฟตัดหมอกได้ แต่ต้องปิดไฟตัดหมอกทันทีเมื่อขับขี่บนเส้นทางที่ทัศนวิสัยดีขึ้นแล้ว

3. เช็ดฝ้าที่ขึ้นบนกระจก

ฝ้าที่ขึ้นบนกระจกคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากเมื่อเราขับขี่รถยนต์ฝ่าเข้าไปในพื้นที่ที่มีหมอกลงจัด ขั้นแรกต้องตรวจดูว่าเป็นฝ้าที่เกิดขึ้นด้านในหรือด้านนอก หากเป็นฝ้าที่เกิดขึ้นด้านในก็ให้ทำการลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศลง แต่ถ้าหากเกิดขึ้นที่ด้านนอกให้ทำเพิ่มอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ หรือจะใช้วิธีการเปิดกระจกเพียงเล็กน้อยเพื่อปรับให้อากาศภายนอกและภายในตัวรถเท่ากัน แต่ถ้าหากสามารถหาที่ปลอดภัยจอดรถได้ ก็ควรจอดรถและลงไปเช็ดด้วยตัวเอง

4. ขับรถให้มีระยะห่างจากคันข้างหน้า

เพราะการขับขี่ฝ่าหมอกที่ลงจัด การจะเบรกนั้นต้องใช้ระยะห่างเพิ่มขึ้น ให้เรานั้นขับรถยนต์ให้มีระยะห่างจากคันข้างหน้ามากกว่าปกติ หากจะต้องเบรกก็จะสามารถเหยียบเบรกได้ทัน

5. อย่าเร่งเครื่องหนีรถยนต์ที่ขับจี้เรามา

การเร่งความเร็วเพื่อหนีรถยนต์ที่ขับจี้เรามานั้น ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก ถึงแม้ในใจเรานั้นอยากจะเร่งเครื่องหนีแค่ไหนก็ตาม ให้เรารักษาความเร็วตามปกติและระยะห่างไว้จะดีที่สุด

6. ไปเปลี่ยนช่องการจราจรไปมา

อีกสาเหตุของการอุบัติเหตุก็คือการเปลี่ยนช่องการจราจร โดยเฉพาะการเปลี่ยนแบบกะทันหัน และด้วยสภาพที่มีหมอกลงจัดนั้นถือเป็นการกระทำที่อันตรายอย่างมากอีกด้วย แต่ถ้าหากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนช่องการจราจรก็ควรที่เปิดไฟเลี้ยงแจ้งเตือนรถยนต์คัน ๆ ก่อนประมาณ 60 เมตร

7. ก่อนจะแตะเบรกต้องสำรวจรอบข้างให้ดี

เมื่อคิดจะแตะเบรกในช่วงที่ฝ่าหมอก ต้องทำการสำรวจและดูแวดล้อมรอบ ๆ รถยนต์ของเราให้ดีก่อนแล้วจึงค่อย ๆ แตะเบรก ไม่เหยียบแบบทันทีทันใด ทั้งนี้ การให้สัญญาณเตือนล่วงหน้าแก่คันอื่นว่าเรากำลังจะเบรกก็เป็นสิ่งที่ดีอีกด้วย

8. กำจัดสิ่งรบกวนต่าง ๆ

การขับขี่ฝ่าหมอกนั้นเราต้องตั้งสติอย่างมากในการขับขี่ ดังนั้นการกำจัดสิ่งรบกวนต่าง ๆ นั้นถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก เมื่อทัศนวิสัยการมองเห็นนั้นทำได้ยากขึ้น การฟังเสียงก็เป็นอีกสิ่งสำคัญในการขับขี่ เพราะฉะนั้นเสียงเพลงที่ดัง หรือการสนทนาที่ใช้เสียงก็อาจจะรบกวนทำให้เราไม่ได้ยินเสียงรอบ ๆ ข้างรถเราได้

9. ทำการศึกษาเส้นทางนั้นมาอย่างดี

เตรียมตัวมาดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง หากเรานั้นทำการศึกษาเส้นทางมาเป็นอย่างดีแล้ว ยิ่งถ้าเป็นเส้นทางในต่างจังหวัดที่เราไม่คุ้นชินแล้วด้วยนั้น การศึกษาเส้นทางมาก่อนก็จะช่วยในเรื่องของการขับขี่ที่ปลอดภัยและรวมไปถึงของการประหยัดเวลาได้อีกด้วย ทั้งนี้ถ้ามีคนนั่งไปด้วยก็ควรที่จะช่วยเหลือกันในการศึกษาและบอกเส้นทาง

เข้าชม ตลาดรถ และโพสต์ขายรถของท่านได้ที่ ตลาดรถ รถมือสอง รถบ้าน

เช็คราคาซื้อ รถใหม่ รถมือสองได้ที่นี่ เช็คราคารถใหม่ รถมือสอง ฟรี!

เช็คราคาคงเหลือของรถของคุณได้ที่นี่ เช็คราคารถของคุณ ฟรี!

เข้าอ่านบทความรีวิวรถต่างๆ ได้ที่  รีวิวรถยนต์

เข้าอ่านบทความไลฟ์สไตล์ และ เกร็ดความรู้ ต่างๆ ได้ที่นี่ ไลฟ์สไตล์ /เรียนรู้เรื่องรถ

เข้าชมบทความอัพเดท ข่าวสารในวงการรถยนต์ ได้ที่นี่

สนใจเรื่องการประมูลรถ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  มอตโต้ อ๊อคชั่น